หลาย ๆ คนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นของตัวเองนั้นแน่นอนว่าหากจะย้ายของแต่ละทีก็จะพึ่งรถรับจ้างบริการ หรืออาจจะไปเช่ารถกระบะคนรู้จักมาเพื่อย้ายของใช่ไหมครับ ? แน่นอนว่าแต่ละคัน แต่ละที่นั้นย่อมมีค่าบริการไม่เท่ากันแน่นอน แต่ละที่ก็คิดอีกราคา แล้วแต่พื้นที่ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการหารถกระบะเช่ายังไงให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปกันครับ
1.เปรียบเทียบดูหลาย ๆ ผู้ให้บริการ
ก่อนเราจะเลือกใช้บริการคันไหนสักคันนั้นผมอยากให้ทุกคนนั้นลองเปรียบเทียบในแต่ละคันก่อนว่าแต่ละคันนราคาเป็นไง กระบะใหญ่ไหม ? ราคาสูงไหม ? และผู้ให้บริการนั้นอยากให้บริการเราขนาดไหน โดยอันนี้เป็นวิธีเล็ก ๆ น้อยนะครับ หากเราแจอ เช่ารถกระบะที่ราคาถูกแต่ว่า กระบะนั้นไม่ใหญ่มาก แต่เราเจออีกเจ้าที่ราคาไม่ห่างกันแต่กระบะใหญ่กว่าเราลองแกล้ง ๆว่า “อีกคนนั้นคิดราคานี้ได้เลย ให้เขาคิดราคานี้ไม่ได้หรอ ?” ถ้าเขาอยากให้บริการผมเชื่อว่าเขาต้องลดได้แน่นอน (แต่เราก็อย่าไปขอต่อราคาจนน่าเกลียดนะครับ)
2.เช่ากับคนรู้จัก
แน่นอนว่าหากเราเช่ารถกระบะกับคนรู้จักกันเราอาจจะไม่ได้สิทธิ์ต่อเรื่องราคา แต่แน่นอนว่าเราอาจจะได้ความสัมพันธ์ที่แน่นขึ้น แต่อันนี้คงใช้ไม่ได้ขอข้ามไป แต่ราจะได้ในเรื่องของคนช่วยงามเพราะเราจะสามารถเรียกใช้ได้แบบไม่ต้องเกรงใจแน่นอน ถือว่ามีลูกมือที่คอยช่วยยกของด้วยนะครับ ถึงจะไม่ได้ราคา แต่เราเบาแรงนั้นเอง
3.ขอร้องให้ช่วย
แต่ถ้าหากว่าเราไปเลือกเช่ารถกระบบะกับคนไม่รู้จัก และเราไม่กล้าเรียกให้เขามาช่วยคนต้องยกของคนเดียวเองแน่นอน แต่ถ้าหากท่านเกรงใจกลัวว่าเรียกตรง ๆ จะน่าเกลียดผมแนะนำให้ใช้วิธีนี้เลยครับ “แกล้งหยิบอะไรหนัก ๆ ที่เราคิดว่าเรายกไม่ไหวแน่นอน และเมื่อเรายกไม่ไหว ก็เรียกให้พี่เขาช่วย” ผมเชื่อว่าเขาคงไม่ใจจืดใจดำมองเรายกไม่ไหวแน่นอน
4.ลงทุน 10 บาทอาจจะคุมกว่าก็ได้
แน่นอนว่าตอนขนขึ้นนั้นไม่ลำบากเท่าตอนขนลงครับ ใคร ๆ ก็อยากให้มันเสร็จเร็ว ๆ ดังนั้นหากเราอยากให้มันเสร็จเร็ว ๆ ก็ลองให้พี่คนขับช่วยเราขนของก็ได้ครับ และตอนจบของงานอาจจะซื้อ คาคราบาว เลี้ยงเขาสักขวดเพื่อเป็นค่าจ้างเขาก็ได้
สำหรับใครที่กำลังจะย้ายขและมองหา เช่ารถกระบะ อยู่ละก็ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูก็ได้นะครับจะได้คุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไปนะครับ